หน้าที่ของผมในนิตยสาร ESTILO

“พบกันอีกแล้วนะครับเพื่อนๆ วันนี้ผมจะมีเล่าประสบการณ์ในการทำงานกลุ่มชิ้นหนึ่ง งานชิ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่เลยทีเดียว นั่นคือการทำนิตยสารนั่นเอง ซึ่งตัวผมมีหน้าที่อะไรบ้าง มาฟังกันเลยดีกว่า"

นี่คือคอลัมน์ทั้งหมดที่ผมรับผิดชอบ

งานนี้เป็นงานกลุ่ม 6 คนของวิชาการทำสื่อสิ่งพิมพ์ โดย 6 คนนี้เป็นกลุ่มที่อาจารย์จับให้เอง(ขัดขืนไม่ได้ 5555) ซึ่งในกลุ่มของผมนั้นมีแต่คนตั้งใจทำงาน อาจารย์คงหวังให้เพื่อนๆ เหล่านี้มาดึงผม ซึ่งเป็นคนขี้เกียจได้ตั้งใจทำงานขึ้นบ้าง :P  

ต่อมาเป็นการรวมกลุ่มกันคุย ว่าเราจะทำนิตยสารเกี่ยวกับอะไรดี ซึ่งตอนแรกเราก็จะทำนิตยสารเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยเป็นหลัก พอเรามานำเสนออาจารย์ก็บอกให้ลองปรับเป็นการผสานกันระหว่างการใช้ชีวิตแบบไทยๆ และแบบต่างประเทศ ซึ่งเราก็เห็นด้วย

นี่คือคอลัมน์แรกที่ผมส่งให้ บก. และฝ่ายกราฟฟิค

พอมาถึงการแบ่งหน้าที่ บก. ของนิตยสารซึ่งคือลูกน้ำได้มอบหมายให้ผมเป็นนักเขียนคอลัมน์ ซึ่งพอเอาจริงๆ แล้วจะนักเขียนหรือช่างภาพก็ได้เขียนเยอะเท่าๆ กัน 55555+ ซึ่งคอลัมน์แรกที่ผมทำคือ การรีวิวหนังน่าสนใจที่กำลังจะเข้าฉาย ในตอนแรกก็ไม่รู้จะใส่เรื่องอะไรลงไปบ้าง ก็เลยลองๆ หาหนังที่ตัวเองชอบ เพราะคิดว่าคนอื่นคงชอบเหมือนกัน ส่วนใหญ่ที่เอามานั้น มีแต่หนังแอ็คชั่นเกือบทั้งหมดเลย พอเราได้ข้อมูลหนัง ประกอบกับการเขียนส่วนตัวและเมื่อเขียนเสร็จสิ้นแล้ว ผมก็นำไปอัพลงใน Google Drive ซึ่งเป็นที่เรารวบรวมงานกันนั่นเอง

ปัญหาการนอนดึกที่ผมได้เขียนขึ้น

หลังจากพักยาวตอนช่วงสงกรานต์แล้ว บก. นิตยสารก็นัดส่งคอลัมน์ถัดมา ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นคอลัมน์เกี่ยวกับสุขภาพที่ทำกันหลายคน แต่จะแยกย่อยว่าใครจะทำเรื่องอะไร โดยตัวผมได้ทำเรื่องการนอนดึก ซึ่งเป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่จะต้องเจอกันเกือบทุกคน ซึ่งอาจจะมีหลากหลายสาเหตุที่ทำให้นอนดึก เช่น ทำงาน เล่นเกม อ่านหนังสือ หรืออีกต่างๆ มากมาย และตัวผมเป็นคนนอนดึกอยู่แล้ว เลยเขียนปัญหาเกี่ยวกับการนอนดึกได้ดี 5555+ ซึ่งพอมาดูผลกระทบแล้ว ทำให้เราคิดว่าตัวเราควร ลด ละ เลิก การนอนดึกได้แล้ว และก็ได้เขียนวิธีการแก้ปัญหาในการนอนดึกมา ซึ่งคิดว่าเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ที่ได้อ่าน จะสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ 

คอลัมน์สุดท้ายที่เขียนเป็นการแนะนำอุปกรณ์พกพา

มาถึงการเขียนคอลัมน์สุดท้าย เป็นการแนะนำอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ได้ออกมาให้ทั่วโลกได้ชมกัน ซึ่งส่วนตัวผมเป็นคนที่ชื่นชอบติดตามข่าวสารเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ทำให้มีความเข้าใจและสนุกในการเขียนแนะนำอุปกรณ์ที่เพื่อนๆ ต้องจับตามองได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวที่มาแนะนำนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับพวกสุขภาพซะส่วนใหญ่ เพราะในสมัยนี้นั้นคนเราออกกำลังกายโดยอาศัยสิ่งเหล่านี้มากขึ้นนั่นเอง

การแนะนำร้านกาแฟที่น่าสนใจ

มาถึงคอลัมน์รวมอีกคอลัมน์ กลุ่มเราได้เห็นว่า นิสิต นักศึกษา ในปัจจุบันมีพฤติกรรมอ่านหนังสือกันนอกบ้านพอสมควร ยิ่งในช่วงสอบแล้วอ่านกันโต้รุ่งเลยทีเดียว กลุ่มเราจึงได้ทำคอลัมน์แนะนำร้านต่างๆ ที่น่าสนใจ เพื่อที่จะให้เพื่อนๆ ได้ไปใช้บริการนั่นเอง

กลายเป็นฝ่ายพิสูจน์อักษรซะแล้วววววววว

หลังจากที่นิตยสารของเราได้ปิดเล่มไปแล้ว ก่อนที่จะนำนิตยสารไปตีพิมพ์จริงๆ ก็ถึงเวลาตรวจคำผิดกันแล้วววววววว  ซึ่งบอกได้เลยว่าเหนื่อยกว่าการเขียนซะอีก เพราะต้องอ่านหลายๆ รอบเพื่อให้มีความผิดพลาดน้อยที่สุด

วงคำผิดให้ฝ่ายกราฟฟิคนำไปแก้ไข้

“สิ่งที่ได้จากการทำงานนิตยสาร”

       "ได้เขียนอะไรที่เราอยากเขียน ซึ่งกลายมาเป็นคอลัมน์ในนิตยสารในที่สุด"

       "เข้าใจหน้าที่ของตนเอง ในการทำงานเป็นกลุ่ม"

       "รู้ข้อบกพร่องในการทำงานของตนเอง และนำมาปรับปรุงแก้ไข"

       "รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆ ในกลุ่ม"

       "มีความสุขเมื่อได้เห็นสิ่งที่เราเขียนนั้น สำเร็จสมบูรณ์"

       "ช่วยเหลือเพื่อนในเวลาที่เพื่อนไม่สามารถทำงานได้"

       "มีความขยันตั้งใจในการทำงานมากขึ้น"

จบไปแล้วนะครับกับการเล่าประสบการณ์ในการทำงานจริงให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน ซึ่งตอนแรกก็หนักใจกับงานชิ้นนี้มาก เพราะตัวผมนั้นเป็นคนขี้เกียจทำงาน กลัวทำงานที่เพื่อนในกลุ่มมอบหมายมาไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วงานชิ้นนี้ที่ผมและเพื่อนในกลุ่มได้รวมพลังกันก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น ตอนนี้ผมก็ไม่มีอะไรจะเล่าให้ฟังแล้ว คงต้องลากันไปก่อน ไว้พบกับผมได้ในวันที่ชาติต้องการนะครับ บายยยยยยยยยยยยยยยยยย :D

โฉมหน้าผมและเพื่อนในกลุ่ม

เชิญชมผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์... ..

เมื่อเราได้พูดถึงผาแต้ม เชื่อว่ามีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก แต่ถึงรู้จักแล้วบางคนก็ยังไม่เคยไป วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปชมผาแต้มดีกว่าว่ามีสิ่งใดหน้าสนใจบ้าง. .. .

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศไทย สามารถรับชมพระอาทิตย์ขึ้นได้เป็นจุดแรกของประเทศไทย อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี จุดที่น่าสนใจคือภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ผาแต้ม และจุดชมพระอาทิตย์แสงแรกแห่งสยาม  อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีพื้นที่ราว 340 ตารางกิโลเมตร มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วย สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่านานาชนิด มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติมากมาย เช่น ผาชัน น้ำตกสร้อยสวรรค์ เสาเฉลียง ถ้ำ ภูนาทาม เป็นต้น อีกทั้งยังได้มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปี ที่บริเวณผาขาม ผาแต้ม ผาเจ็ก ผาเมย และถือได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติ แห่งแรกในประเทศไทยที่มีแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดน ระหว่างประเทศไทย และประเทศลาวเป็นแนวเขตอุทยานแห่งชาติที่ยาวที่สุด ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ป่าเขา ทางฝั่งประเทศลาวได้เป็นอย่างดี
ส่วนที่มาของคำว่าผาแต้มนั้น  "แต้ม" เป็นภาษาถิ่นดั้งเดิมหมายถึง รอยวาด ระบาย ประทับ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ โดยใช้สี ให้ปรากฏเป็นรูปภาพ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ โดยที่ผาแต้มนี้ เป็นแหล่งที่พบภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปีแบ่งออกได้ 4 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ยาวที่สุดยาว 180 เมตร และมีภาพมากกว่า 300 ภาพ

ในอดีตชาวบ้านท้องถิ่นที่ทำกินในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ป่าภูผา น้อยคนนักที่จะเดินทางเข้าไปในป่าดังกล่าว เนื่องจากมีความเชื่อว่า “ผาแต้มเป็นเขตต้องห้าม ภูผาเหล่านี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไปมักมีอันเป็นไป อาจเจ็บไข้หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้” 

ต่อมาพื้นที่ป่าภูผาบริเวณผาแต้มได้ถูกเปิดเผยจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป เมื่อคณะอาจารย์และนักศึกษาจากภาควิชามนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากรได้มาทำการสำรวจและค้นพบภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้ม ท้องที่บ้านกุ่ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบกับสภาพป่าในบริเวณใกล้เคียงยังอุดมสมบูรณ์ จึงได้ทำหนังสือบันทึกจากภาควิชาฯ ลงวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2524 เสนอต่อ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ขอให้จัดตั้งป่าภูผาในบริเวณผาแต้มเป็นอุทยานแห่งชาติ

และในส่วนของผาแต้มนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ภาพวาดอย่างเดียว ยังมีน้ำตก กลุ่มหินผาต่างๆ อีกมากมาย เรามาดูดีกว่าว่ามีแหล่งท่องเที่ยวอะไรอีกบ้าง 

“พืชพรรณและสัตว์ป่า”
สภาพป่า โดยทั่วไปเป็น ป่าเต็งรัง เสียส่วนใหญ่ ตามพื้นที่มีหินโผล่ ลักษณะเป็นป่าโปร่งต้นไม้แคระแกร็น แต่มีความสวยงามตามธรรมชาติ พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ เต็ง รัง เหียง ประดู่ และเหมือดต่างๆ พืชพื้นล่างเป็นพวกไผ่ป่า หญ้าต่างๆ ข่อยหิน และยังมีไม้ดอกที่สวยงามขึ้นอยู่ตามซอกลานหินทั่วไป เช่น หยาดน้ำค้าง แดงอุบล เอ็นอ้า เหลืองพิสมร กระดุมเงิน ตั้งไก่(หัวไก่โอก) มณีเทวา ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากกระจายทั่วพื้นที่ สภาพป่าจะเปลี่ยนเป็น ป่าดิบแล้ง ในบริเวณที่ราบลุ่มแถบริมห้วยหรือริมแม่น้ำ เนื่องจากมีความชุ่มชื้นพอประมาณตลอดปี นอกจาก นี้ ยังพบป่าสนสองใบที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ กระจัดกระจายในส่วนที่เป็นพื้นราบบนภูต่างๆ ทั่วพื้นที่

สัตว์ป่า ประเภทสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ยังไม่พบ พบแต่ขนาดเล็กลงมา สัตว์ป่าที่พบได้ทั่วไป เช่น อีเห็น สุนัขจิ้งจอก กระต่ายป่า อีเก้ง ชะมด บ่าง ในฤดูแล้งเมื่อระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงมาก จะพบเห็นสัตว์ประเภทหมูป่า เลียงผา ว่ายน้ำข้ามมาจากฝั่งประเทศลาวอยู่เสมอๆ เนื่องจากอาณาเขตบางส่วนอยู่ในลำน้ำโขงมีปลาน้ำจืดชนิดต่างๆ มากมาย ได้แก่ ปลาบึก ปลาตะเพียน ปลาคลัง ปลาเทโพ ปลากรด ปลาตูนา ปลาหมอ ปลากาย ปลาแข้เป็นต้น นกนานาชนิดที่พบเห็น เช่น นกขุนทอง นกยูง เหยี่ยว อีกา นกขุนแผน นกกระเต็น เป็นต้น

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับการชมผาแต้มในครั้งนี้ ซึ่งบอกได้ว่าที่มาของผาแต้มนั้นน่าสนใจมาก ภาพวาดขีดเขียนที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้มีอายุยาวนานกว่าประวัติศาสตร์ของคนเราซะอีก ซึ่งวันนี้ผมก็ขอจบการนำแหล่งการเรียนรู้ผาแต้มครั้งนี้ไว้เพียงเท่านี้ ไว้เจอกับผมใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ :)

นิทานสำหรับเด็กเรื่อง เท่าที่มี

จากที่ตัวผมได้ข้อ 3 จากเรื่องค่านิยม 12 ประการแล้ว ก็ได้มีการวางแผนการทำนิทานต่อไปเลย ซึ่งมีดังนี้

กลุ่มเป้าหมาย : เป็นเด็กเล็กวัย 5 ขวบ

ประเภทหนังสือ : นิทานร้อยแก้ว

ใจความสำคัญในเรื่อง : ความกตัญญูที่มีต่อพ่อแม่

ขนาดหนังสือ : A4 แนวนอน

นิทานมีเนื้อเรื่องคร่าวๆ ว่า มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อสิบ เขาได้อาศัยกับพ่อที่เป็นชาวนาอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จากการที่แม่ของเขาได้ตายไป ทำให้พ่อของสิบต้องทำงานหนักเพื่อที่จะเลี้ยงดูสิบ ส่วนตัวสิบนั้นเป็นคนที่เอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่ก็มาคิดได้ในภายหลังว่าแค่พ่อเราต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงดูเรานั้นก็เหนื่อยมากพอแล้ว เราควรจะแบ่งเบาภาระท่านบ้างไม่มากก็น้อย

ต่อมาก็เป็นการออกแบบต่างๆ หลังจากนั้นจะเป็นการเขียน Storyboard ว่าแต่ละฉากนั้นจะมีการดำเนินเรื่องอย่างไร ต่อมาเมื่อเรากำหนดการดำเนินเรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเป็นการออกแบบตัวละคร ซึ่งตัวละครบางตัวจะทำมาจาก www.freepik.com ซึ่งเปิดให้นำมาใช้ได้ฟรี ซึ่งแต่ละหน้าตัวละครก็จะมีหลากหลายตัว

เมื่อทำเนื้อหาภายในเสร็จสิ้นแล้ว ต่อมาก็เป็นการออกแบบปกนิทาน ว่าจะมีการออกแบบอย่างไร ซึ่งหน้าปกนั้นจะเป็นตัวละครเด็กที่ชื่อสิบ และรถของเล่นของเขานั้นเอง ส่วนฉากหลังของปกหน้านั้นจะเป็นภาพหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่กับพ่อ

ส่วนปกหลังนั้นจะเป็นการอธิบายว่านิทานเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร และชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา สุดท้ายจะเป็นชื่อผู้จัดทำ

สิ่งที่ได้จากการจัดทำนิทานเล่มนี้

-          สามารถเป็นสื่อการเรียนรู้ให้เด็กเล็กได้

-          ช่วยปลูกฝังให้เด็กนั้น มีความกตัญญูต่อครอบครัวได้

-          ตัวเราได้ฝึกทักษะการเขียน และการเล่าเรื่องโดยภาพนิ่งได้

-          ได้เรียนรู้ค่านิยมทั้ง 12 ประการ

ปัญหาที่พบในการทำงาน

-          ส่วนตัวไม่ได้มีความชำนาญในการใช้โปรแกรม Illustrator แต่ก็ได้นำภาพจากเว็ปไซต์มาช่วยนำการสร้างนิทาน

-          ต้องคำนึงในการใช้คำ เพราะ คำบางคำเด็กเล็กอาจจะยังไม่เข้าใจ

สิ่งที่คาดหวังจากชิ้นงาน/รายวิชานี้

1. ได้รู้ถึงนิทานสำหรับเด็ก ว่ามีกี่ประเภท และเราควรนำประเภทไหนมาใช้ในการทำงาน

2. เรียนรู้ถึงวิธีการเขียนนิทานให้มีความเหมาะสมกับวัยเด็ก
3. ทราบถึงขั้นตอนการผลิตนิทาน ว่ามีขั้นตอนใดบ้าง

4. ได้ออกแบบนิทานด้วยตนเอง

5. ผลิตชิ้นงานออกมาโดยมีความสวยงามได้ด้วยตนเอง

สิ่งที่ได้เหนือความคาดหวัง

1.ก่อนที่จะเริ่มทำนิทานชิ้นนี้ ได้ความรู้จากวิทยากรที่มาบรรยายให้ฟัง ทำให้มีแรงจูงใจในการทำงานเพิ่มมากขึ้น

2. ได้รับรู้ถึงความสนุก และปัญหาในการทำสื่อนิทานด้วยตนเอง

3. ศึกษาขั้นตอน วิธีการทำสื่อชนิดนี้ด้วยตัวเอง ทำให้เราสามารถกำหนดทิศทางในการทำงานได้ตั้งแต่ต้นจนเสร็จสิ้นงาน

บุคคลที่เราชื่นชม

เจอกันอีกครั้งแล้วนะครับเพื่อนๆ ทุกคน :)
วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องการสัมภาษณ์บุคคลที่เราชื่นชม
ซึ่งอาจจะเป็นคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา หรือมีเป็นแบบอย่างให้เราไม่ว่าด้านในด้านหนึ่ง
ซึ่งคนที่ผมได้ทำการพูดคุยมานั้น เป็นเพื่อนผมตั้งแต่สมัยมัธยมเลยทีเดียว
และเพื่อนผมคนนี้นั้นมีแนวคิดอย่างไร ไปดูกันเลยครับ !

ผม : แนะนำชื่อกันก่อนดีกว่า
กอล์ฟ : ชื่อ ชนะศักดิ์ ไชยกาลครับ ชื่อเล่น กอล์ฟ 
ผม : ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่ไหน
กอล์ฟ : ตอนนี้เรียน ปี 3 คณะ พลศึกษา เอก พลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ผม : เห็นชอบเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กแล้ว ลองเล่าแรงบันดาลใจในการเล่นให้ฟังหน่อย
กอล์ฟ : ก็เริ่มเล่นฟุตบอลตอนอายุ 14 (ม.2) ร.ร.นารีนุกูล จ.อุบลฯ ม.3 ได้เป็นตัวแทนจังหวัดไปแข่งรายการ
ไพรม์มินิสเตอร์ระดับประเทศที่จังหวัด ตรัง
ผม : หลังจากช่วงมัธยมปลาย เราสองคนก็ไม่เจอกันเลย ไปทำอะไรมาบ้าง ?
กอล์ฟ : มัธยมปลายย้ายมาเรียนที่ รร.ราชวินิตบางแก้ว โดยคัดฟุตบอลติดโครงการช้างเผือก ได้แชมป์เยาวชนแห่งชาติระดับภาค, อันดับ 3 ฟุตบอลถ้วย ก ระดับนักเรียน, อันดับ 2 ฟุตบอลกองทัพอากาศ ฯลฯ
ผม : แล้วหลังจากนั้นล่ะ ?
กอล์ฟ : พอจบ ม.6 เล่นให้กับสโมสร ศุลกากร ยูไนเต็ด เป็นระยะเวลา7เดือน เพราะต้องไปเรียนต่อ จึงหยุดเล่นฟุตบอลอาชีพ ปัจจุบันเป็นนักกีฬาฟุตบอลของมหาวิทยาลัย และแรงบันดาลใจคือ เป็นคนที่ชอบกีฬา
ผม : เราเป็นคนที่ชอบดูฟุตบอลมาก แต่ไม่ค่อยมีเวลาได้เตะ ทำให้ชื่นชมนายที่เตะบอลเก่ง อยากรู้ว่าแรงบันดาลใจที่ทำให้เล่นฟุตบอลคืออะไร ?
กอล์ฟ : ก็อย่างที่บอกเป็นคนที่ชอบกีฬา ชอบวิ่ง พ่อชอบดูฟุตบอล เลยซึมซับมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อได้มาลองสัมผัสก็ชื่นชอบมากขึ้นไปอีก ทำให้เกิดมีความฝันอยากจะติดทีมชาติสักครั้ง ทำให้ทุกวันนี้ยังคงเล่นและตั้งใจซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสานฝันในวัยเด็กต่อไป
ผม : โอเค อยากฝากถึงคนที่ชอบเล่นกีฬาว่ายังไงบ้าง ?
กอล์ฟ : ก็ฝากบอกว่าการเล่นกีฬานั้น ทำให้เรามีเพื่อนมากขึ้น มีสุขภาพแข็งแรง และมีแรงกระตุ้นในการพัฒนาตนเอง
ผม : ขอบคุณมากที่มาพูดคุยกันในวันนี้ ไว้เจอกันใหม่นะ :)
กอล์ฟ : ด้วยความยินดี ไว้เจอกันนะ :D

เป็นไงบ้างครับเพื่อนๆ เพื่อนผมคนนี้เล่นกีฬาเพราะเป็นความฝันในวัยเด็ก

ซึ่งทำให้มีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้เล่น ซึ่งผมก็มีความชื่นชมด้วยเหตุผลที่ว่าชอบดูฟุตบอลเหมือนกันและเอาใจช่วยให้เขาทำตามฝันให้ได้

แล้วตอนนี้เพื่อนๆ ทำตามฝันแล้วหรือยังครับ ?

ทำไมชีวิตต้องอยู่แต่ในกรอบ !

ทำไมชีวิตต้องอยู่แต่ในกรอบ !

มองไปรอบๆ ตัวเรา ผู้คนมากมายใช้ชีวิตแบบวัฏจักรกันแทบทั้งนั้น 

 ตื่น - ทำงาน - นอน

เป็นแบบนี้แทบทุกวัน กล่าวคือทุกวันนั้นเกือบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่
ซึ่งจะบอกว่ามันน่าเบื่อแต่ก็คงเปลี่ยนแปลงกิจวัฒแบบนี้ยากน่าดู
วันนี้ตัวผมจึงจะมาพูดถึงแนวคิดการเปลี่ยนชีวิตไม่ให้อยู่ในกรอบอีก
นั่นคือ โปสเตอร์กระตุ้นให้ทุกคนมีแนวคิดนอกกรอบ
ใช้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในการทำงาน
เราจะคิดแบบเดิมๆ ทำไมเมื่อเราสามารถคิดงานที่ดีกว่าเดิมได้

โดยโปสเตอร์ที่ว่ามานี้นั้นเน้นถึงการใช้เทคโนโลยีในการทำงานมากเกินไป จนทำให้เรานั้นติดสบาย ไม่พยายามคิดอะไรใหม่ๆ 

เพราะคิดว่าสิ่งที่เราคิดอยู่นั้นมันดีอยู่แล้ว 

เปรียบเสมือนการใช้ชีวิตประจำวัน

ที่มีแต่อะไรเดิมๆ ไม่ยุ่งยาก 

แต่ก็ไม่น่าตื่นเต้นหวือหวา

ซึ่งเป็นแนวคิดของผู้ออกแบบชื่อ Huge Souhall ต้องการจะสื่อให้สังคมได้รับรู้ ซึ่งเป็นแนวทางการนำเสนอที่ง่ายๆ แต่สามารถส่งผลกระทบได้เป็นอย่างดี

เพื่อนๆ เห็นอะไรจากโพสเตอร์นี้กันบ้าง ?

จากการออกแบบจะสื่อให้เห็นว่าคนนั้นอยู่ในกรอบที่เรียกว่าเทคโนโลยี

ซึ่งคล้ายกับการติดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา

ส่วนตัวผมนับว่าเป็นการออกแบบง่ายๆ แต่ไม่ง่ายเลย

 เพราะทุกคนนั้นเคยชินกับการใช้คอมพิวเตอร์ แต่ไม่มีใครคิดว่าเราติดกับที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นมาให้เราอยู่ในกรอบนั่นเอง

นับว่างานที่ Huge Souhall ออกแบบมานั้นสามารถใช้รูปภาพสื่อถึงคำพูดต่างๆ ที่เราอธิบายเป็นคำพูดได้ออกมาอย่างมีกึ๋น ซึ่งมองแล้วก็ชวนให้เรานั้นคิดว่า ทุกวันนี้ชีวิตเราติดอยู่ในกรอบเกินไปหรือเปล่า... . . .

TIME!!!

สิ่งพิมพ์ที่มีอธิพลต่อสังคม

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนั้น สื่อสิ่งพิมพ์ได้เข้ามามีบทบาทต่างๆ
ในสังคมคนเราเป็นอย่างมาก

เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงได้ง่าย และมีวันเวลาในการตีพิมพ์ที่แน่นอน

ซึ่งสื่อตีพิมพ์นั้นเป็นสื่อที่ต้องการให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจ

ตื่นตัวในข่าวสารที่สิ่งพิมพ์นั้นๆ ต้องการเสนอ

ในวันนี้ผมจะมานำเสนอสื่อพิมพ์จากฝั่งอเมริกา ซึ่งเป็นสื่อที่ถึงเพื่อนๆ จะไม่เคยอ่านก็คงเคยได้ยินชื่อนี้เข้าหูมาบ้างแน่ๆ นั่นคือนิตยสาร TIME นั่นเองครับผม

    TIME เป็นนิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของสหรัฐอเมริกาเริ่มพิมพ์ฉบับแรก โดยเป็นนิตยสารข่าวรายสัปดาห์เล่มแรกของประเทศ โดยในปัจจุบันไทม์มีจัดพิมพ์หลายแห่งทั่วโลกโดยในยุโรปใช้ชื่อว่า "ไทม์ยุโรป" มีสำนักงานอยู่ที่ลอนดอน และออกจำหน่ายในยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา รวมถึงละตินอเมริกา ส่วนในเอเชีย ใช้ชื่อว่า "ไทม์เอเชีย" มีสำนักงานที่ฮ่องกง ขณะที่ "ไทม์แคนาดา" เป็นฉบับสัญชาติแคนาดาซึ่งจัดจำหน่ายในประเทศแคนาดา และ"ไทม์เซาท์แปซิฟิก" ซึ่งจัดจำหน่ายครอบคลุมออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะแปซิฟิก มีสำนักงานอยู่ที่ซิดนีย์

     ในปัจจุบัน นิตยสารไทม์จัดการโดยบริษัทไทม์วอร์เนอร์ สำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ก 

และมีนายริชาร์ด สเตนเจล เป็นบรรณาธิการบริหาร

    จุดที่ทำให้นิตยสารเล่มนี้มีความน่าสนใจคือ คือกรอบสีแดงบนหน้าปกซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของไทม์ และเป็นเวลาหลายทศวรรษซึ่งปกของนิตยสารเป็นรูปของบุคคลคนเดียวจวบจนถึงปัจจุบัน

     มาถึงหัวข้อที่ทุกคนคงเคยได้ยินมา นั่นคือหัวข้อบุคคลแห่งปีของนิตยสารนี้ ซึ่งตลอดอายุแปดสิบสามปีของนิตยสาร ฉบับหัวข้อบุคคลแห่งปีนั้นเป็นฉบับที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด โดย TIME จะทำการยกย่องบุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งได้สร้างผลกระทบมากที่สุดต่อเหตุการณ์ในระหว่างปีนั้น ถึงแม้จะตั้งหัวเรื่องว่า 'บุคคล' แห่งปี แต่ผู้ได้รับการคัดเลือกก็ไม่จำเป็นต้องเป็นมนุษย์เสมอไป ดังเช่นในปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้รับการยกย่องให้เป็น "เครื่องจักรแห่งปี" นอกจากนั้น หัวข้อในปี พ.ศ. 2542 ก็ถูกเปลี่ยนเป็น "บุคคลแห่งศตวรรษ" และผู้ได้รับการคัดเลือกคือ

  อัลเบิร์ต ไอน์ไตน์

      ซึ่งหัวข้อนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ทำประโยชน์ให้กับโลกเพียงอย่างเดียว เพราะเป็นครั้งคราวซึ่งมีการถกเถียงกันถึงความเหมาะสมในการคัดเลือกเมื่อปรากฏว่าผู้นำเผด็จการหรือผู้ก่อสงครามได้ถูกคัดเลือกให้รับตำแหน่ง "บุคคลแห่งปี" ทั้งนี้ หลักเกณฑ์สำคัญในการคัดเลือกคือ บุคคลคนนั้นเป็นผู้ที่มีบทบาทต่อเหตุการณ์ในปีนั้นมากที่สุด ไม่ว่าจะในทางที่ดีหรือร้ายก็ตาม ในบางครั้งตำแหน่งนี้จึงไม่ใช่การยกย่องหรือเป็นเกียรติประวัติแต่อย่างใด ในอดีต กระทั่งบุคคลอย่าง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หรือ โจเซฟ สตาลิน ก็เคยได้รับการคัดเลือกมาแล้ว

บุคคลหรือสิ่งที่จะเป็นที่สุดแห่งปีของนิตยสาร TIME ได้นั้น

พูดได้ว่าต้องเป็นสิ่งที่สร้างผลกระทบให้กับโลกได้เลยทีเดียว

ตัวอย่างเช่นบุคคลในรูปนี้

" รู้จักใครที่เล่น อินเตอร์เน็ตวันละ 2-3 ชั่วโมงขึ้นไปต่อวันบ้างมั้ยเอ่ย ? "

     สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะครับ เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรัก

เพื่อนๆ คิดไว้แล้วรึยังเอ่ยว่าจะไปเที่ยวไหน ? 

ในวันนี้ผมจะมาให้ความรู้เรื่อง พรบ คอมพิวเตอร์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันว่าที่เราเล่นๆ

 เครือข่ายออนไลน์อยู่นี้  มีความผิดหรือไม่ 

ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยยยยย  :)

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : http://www.martinprint.com.au/blog/wp-content/uploads/

                         2013/11/Small-Business-Email-Marketing-5.png

   
     เชื่อว่าในปัจจุบันนั้นทุกๆ คนคงอาศัยเครือข่ายสังคมเป็นตัวกลางในการสื่อสารกับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การบันเทิง จนกระทั่งการค้นหาข้อมูลที่เราต้องการ แต่ก็มีคนบางประเภทที่ใช้อินเตอร์เน็ตในการก่อกวนผู้อื่น ทั้งจงใจหรือไม่จงใจ เพื่อนๆ อาจจะพบเจอได้ในขณะที่เล่นๆ Facebook อยู่ก็มีคนทักมา  " พอจะรู้จักใครที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตวันละ 2-3 ชั่วโมงบ้างรึเปล่า .. . . "  ซึ่งผมเองก็ปวดหัวกับคนเหล่านี้เหลือเกิน ก็เข้าใจนะว่าเป็นการทำงานประเภทนึง แต่ถ้าการทำงานนั้นมันไปรบกวนผู้อื่นก็ไม่ใช่อะผมว่า  เอาล่ะ ! เรามาดูกันว่าการที่ทำแบบนั้นในการใช้งานเครือข่ายออนไลน์  มันผิดกฏหมายรึเปล่า

   
     พรบ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550  มาตรา 11 กล่าวไว้ว่า : ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น  โดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว  อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่น  โดยปกติสุข  ต้องระวางโทษไม่เกินหนึ่งแสนบาท




     เพื่อนๆ รู้กันแล้วใช่มั้ยล่ะครับ ว่าการที่เราส่งข้อความต่างๆ ที่ทำให้เป็นการรบกวนผู้รับ  มันก็มีความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์นะเออ  วันไหนถ้าจะถามใครว่า " พอจะมีเวลาว่างซัก 2-3 ชั่วโมงรึเปล่า " ล่ะก็ ระวังโดนอีกฝ่ายฟ้องเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน 555555555+

ในวันนี้ผมก็มาให้ความรู้เพียงเท่านี้  ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้านะครับเพื่อน ๆ

เบสท์

   

้หนังสือเล่มนี้มีดีอะไร?

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับบ!

ห่างหายกันไปนานเป็นปีเลยทีเดียว   มีใครคิดถึงกันบ้างมั้ย?  อิอิ



      สำหรับวันนี้ผมจะมาแนะนำหนังสือที่ผมชื่นชอบล่ะกันนะ  นั่นก็คือ Future Gamer ครับ

ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับเกมส์ที่ขายดีที่สุดในไทยเลยนะเออ!  ซึ่งเนื้อหาภายในนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เกมส์

อย่างที่หลายๆคนคิดกัน  เพราะยังมีข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆรวมอยู่ด้วย  เรามาดูกันดีกว่าว่านิตยสาร

เล่มนี้ประกอบไปด้วยเนื้อหาส่วนใดบ้าง

1. ส่วนแรกเป็นบทนำที่นิตยสารจะบอกว่าเนื้อหาที่อยู่ในเล่มประกอบด้วยส่วนใดบ้าง 

2. Preview ที่เป็นการแนะนำเกมส์ที่กำลังจะวางจำหน่ายเร็วๆนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกมส์ที่น่า

สนใจและเป็นเกมส์ฟอร์มยักษ์

3. Review ในส่วนนี้จะเป็นการรีวิวเกมส์ที่วางจำหน่ายแล้ว  เป็นแนวทางแก่ผู้ที่สนใจว่าเกมส์ไหนน่าเล่น  

มีข้อดี ข้อเสียมากน้อยแค่ไหน 

4. Hardware เป็นการแนะนำอุปกรณ์ต่างๆ ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน  ว่ามีความคุ้มค่าในด้านต่างๆ เช่น

ราคา  ประสิทธิภาพ ความคุ้มค่าต่างๆ  ซึ่งจะเป็นการทดสอบใช้จริง ทำให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังมอง

หาอุปกรณ์นั้นๆ ได้เป็นอย่างดี

    จบไปแล้วนะครับกับการแนะนำหนังสือที่ผมชื่นชอบ  ซึ่ง Future Gamer นี้วางจำหน่ายเป็นรายเดือนใน

ราคาเล่มละ 100 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งตัวผมเองมองว่าคุ้มราคามาก เพราะมีเนื้อหาส่วนต่างๆ มากมายเลย

ไว้พบกันกับกระผมในคราวหน้านะครับท่านผู้อ่านทุกๆคน :)