วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แรงบันดาลใจในการเรียนรู้ของฉัน


องค์ประกอบที่ทำให้เกิดการเรียนรู้สำหรับผม

สิ่งที่ผมคิดว่าผมได้รับรู้แล้วสามารถเกิดการเรียนรู้ได้นั้นก็คือ การอ่าน เพราะผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็กๆ  ทั้งด้านความรู้รอบตัว หรือ ประวัติศาสตร์ของโลกยุคโบราณ เพราะพ่อผมเป็นคนที่ชอบซื้อหนังสือมาให้อ่าน  แล้วถ้าผมอ่านจบแล้วจะมาถามผมว่าหนังสือนี้ให้อะไรแก่เราบ้าง ทำให้ผมเป็นคนที่รักการอ่านหนังสือมาตลอด เพราะในหนังสือนั้นมีความน่าติดตามในการอ่าน ทั้งยังให้ความรู้หรือประสบการณ์ด้านที่เรายังไม่รู้อีกเยอะ แล้วมีส่วนที่ทำให้ผมความจำดีมากเรียกได้ว่าแทบจะไม่ลืมเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาเลย

นอกจากการอ่านแล้ว สิ่งที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ก็คือ การได้ลงมือปฏิบัติ เพราะผมเป็นพวกที่ขี้สงสัย และอยากรู้อยากเห็น  สิ่งใดที่ผมสงสัยแล้วผมจะต้องรู้ให้ได้ว่าสิ่งนั้นมันเกิดจากอะไร หรือ มีวิธีสร้างสิ่งเหล่านี้มาได้ยังไง แล้วถ้าเราเข้าใจหลักการของมันแล้ว  จะทำให้เราทำสิ่งเหล่านั้นได้ตลอดโดยที่ไม่ลืมเลย

หลักการเรียนรู้ผมก็ได้พูดไปแล้ว  มาถึงเทคนิคการจดจำบ้าง  สำหรับผมนั้น ชีวิตก็เหมือนเส้นใย การจดจำของผมเลยเกิดขึ้นเป็นทอดๆ สืบต่อกันมา เพราะถ้าเราจำเรื่องที่เกิดขึ้นวันที่ 1 ได้ เราก็จะจำเรื่องของวันที่ 2 ได้ เทคนิคนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมนั้นสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ นั้นได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่สนใจในวิธีการแบบนี้ก็ลองนำไปใช้ได้นะครับ :)

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เรื่องนี้มีอยู่ว่า...

ตั้งแต่ที่ผมจำความจำก็...จำได้ว่า ชื่อของกระผมเองนั้นชื่อพงศ์ชนก บุญประสิทธิ์ ชื่อเล่นเบสท์ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2536 มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 95/1 หมู่ 5 ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับในส่วนของครอบครัวนั้นมีสมาชิกทั้งหมด 5 คน  ได้แก่ พ่อ แม่ พี่สาวอีก 2 คน  ดังนั้นผมจึงเป็นลูกชายคนเล็ก สำหรับทางครอบครัวนั้นถือว่ามีฐานะปานกลาง  พ่อ แม่ และ พี่สาวคนโตของผมนั้น เป็นครูกันหมด  ปัจจุบันก็เป็นครูที่โรงเรียนแถวบ้านที่จังหวัดอุบลราชธานีนั่นเอง  ส่วนพี่สาวคนกลางนั้นตอนนี้ก็กำลังเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลธนบุรีครับ.. . .
นี่คือความเป็นมาโดยคร่าวๆ ของครอบครัวผม
เอาล่ะ! มาพูดถึงเรื่องส่วนตัวของผมบ้างล่ะกัน
.....
....
...
ผมนั้นเป็นคนที่มีนิสัยค่อนข้างแข็งกระด้างในบางครั้ง  หรืออ่อนโยนในบางคราว ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันครับ >,<  มีทัศนคติมองโลกในแง่ดี  ไม่ค่อยมีอคติกับใครเท่าไร  แต่ก็มีคนส่วนน้อยเหมือนกันที่ผมไม่ชอบ ซึ่งก็จะไม่เข้าไปยุ่งกับคนประเภทนี้เลย  มีความร่าเริงอยู่ในตัว  ชอบทำให้เพื่อนคลายเครียด (หรือเครียดมากกว่าเดิมก็ไม่รู้ครับ xD )  เป็นคนที่ค่อนเข้าจะเอาแต่ใจ พื้นฐานอาจจะเป็นเพราะการเป็นลูกคนเล็กทำให้พ่อแม่ตามใจเรามาตลอดก็ได้ครับ  เป็นคนอะไรง่ายๆกับเพื่อนๆทุกคน  ไม่ค่อยทำตัวมีปัญหากับเพื่อนคนอื่นๆในภาควิชาเลย  


มาถึงเรื่องการเรียนของผมกันบ้าง ผมนั้นจบการศึกษาระดับ ม.ปลายที่โรงเรียนนารีนุกูล จังหวัดอุบลราชธานีแผนการเรียนด้าน วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ในการที่ได้มาเรียนเทคโนนี้ก็เป็นความบังเอิญเหมือนกันครับ เพราะว่าผมนั้นได้ให้เพื่อนสมัครสอบรับตรง มศว เพราะเป็นมหาลัยที่เปิดรับตรงเป็นที่แรกเลย พอเพื่อนถามว่าจะลงอะไร ผมก็บอกเอาครูที่เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์หรือคล้ายๆกันก็ได้ ซึ่งก็มีเทคโนฯนี้แหละที่เข้าข่ายที่ผมบอกเพื่อนมากที่สุดเพื่อนเลยลงให้  แล้วช่วงที่ใกล้สอบเข้ามหาลัยนี้ห้องผมซึ่งเป็นห้องเรียนเก่งนั้นต่างก็ตั้งใจอ่านหนังสือกันอย่างมาก มีผมคนเดียวซึ่งไม่ได้อ่านหนังสือเลยเพราะขี้เกียจ รึอาจจะไม่มีความกระหายที่จะแข่งขันกับคนอื่นเลย  พอถึงช่วงวันสอบนั้นผมได้นั่งรถตู้กับเพื่อนๆ ซึ่งเหมามาจากอุบลราชธานี ขณะเดินทางนั้นเพื่อนๆ ส่วนใหญ่อ่านหนังสืออย่างตั้งใจมาก ซึ่งมีผมคนเดียวที่เล่นเกมส์ใน iPod พอ iPod แบตหมดเท่านั้นล่ะครับก็เกิดอาการเบื่อขึ้นมาทำให้หยิบหนังสือการเชื่อมโยงที่จะสอบมาอ่าน(เพื่อไม่ให้รู้สึกผิดต่อพ่อแม่ที่ส่งเรา ให้เงินเรามาสอบตั้งไกล :D )  เรียกได้ว่าอ่านมาแค่นั้นจริงๆ  แต่พอถึงวันประกาศผลสอบของ มศว  ที่ประกาศวันที่ 24 พ.ย. 2554 เท่านั้นล่ะครับ ปรากฎว่าผมกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนเท่านั้นที่สอบติด  ทำให้เพื่อนๆในห้องต่างก็แปลกใจว่ามันไม่อ่านหนังสือไปทำไมมันสอบติด (ผมเองก็แปลกใจเหมือนกันครับ >< )
........
...
นี่ก็คือความเป็นมาคร่าวๆในการที่มีโอกาสได้เข้ามาเรียนที่นี่ครับ

สุดท้ายแล้วผมขอกล่าวคำว่า
.......
....
..
ยินดีที่ได้รู้จักครับ :)